ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทุกคนจำได้ไหมครับ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือที่เรามักได้ยินคนพูดว่า เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เร็ว และ แรงมาก เรียกได้ว่าอเมริกาต้องเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เร็วที่สุดในรอบกว่า 40 ปี เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไม่แพ้กัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตรรัฐบาล กอง REITs ฯลฯ ทำให้ผลตอบแทนลดลงอย่างรุนแรง
.
แต่มาช่วงนี้ เราก็อาจจะได้ยินคำว่า สิ้นสุดวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นบ่อยขึ้น และมองไปถึงว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มที่จะปรับลดลง เนื่องจากว่า ส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่า เงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และเศรษฐกิจสหรัฐก็เริ่มที่จะชะลอตัว ดังนั้นวันนี้ TIPlife จะพาทุกคนมาเตรียมควรพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะคงและปรับลดดอกเบี้ยนโยบายกัน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการลงทุนนะครับ
.
1. Hope for the last rate hike, prepare to the first rate cut คือ สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และภาวะอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่
💸 พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ซึ่งให้อัตราผลตอบแทน (Yield) อยู่ในระดับที่น่าสนใจและราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ดี หากอัตราดอกเบี้ยกลับมาเป็นขาลงในอนาคต
💸 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากภาวะอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวแรงเมื่อเข้าสู่วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาลง โดยหุ้นกลุ่มนี้ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่รายได้ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างสม่ำเสมอตามเทรนด์ Digital Transformation เช่น กลุ่ม Cloud Computing และ Cybersecurity
.
2. Recession Fighter คือ หุ้นกลุ่มเติบโตที่มีคุณภาพ มีความแข็งแกร่งของกำไร กระแสเงินสดดี หนี้สินต่ำ ผลประกอบการยังสามารถเติบโตได้ แม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เช่น หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ (Healthcare) ที่มีอัตราการเติบโตสม่ำเสมอตามเมกะเทรนด์สังคมผู้สูงอายุและเป็นกลุ่มผู้ผลิตนวัตกรรมการแพทย์ เช่น Biotechnology และ Digital Health
.
3. High potential growth countries เป็นตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเอเชียที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลกและมีการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่
💸 ตลาดหุ้นจีน โดยเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ และมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 5% ในปีนี้ หากสนใจควรเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในเมกะเทรนด์ และได้รับการสนับสนุนจากแผนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลจีน เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค พลังงานสะอาด
💸 ตลาดหุ้นเวียดนาม โดยเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่า 6% ในปีนี้จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวและมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
(ที่มา : https://shorturl.at/xDHO8)
.
นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำแนะนำที่ TIPlife นำมาฝากนะครับ แต่ว่าในโลกแห่งการลงทุน สิ่งสำคัญคือการหาข้อมูลให้รอบด้าน และนำมาปรับใช้กับสถานการณ์และความเสี่ยงที่แต่ละท่านรับได้ ดังนั้นอย่าลืมวางแผนกันให้เหมาะสมกับตัวเองนะครับ
.
นอกจากวางแผนสินทรัพย์การลงทุนแล้วมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน นั้นก็คือ การวางแผนภาษีนะครับ อย่าลืมวางแผนชีวิตให้สมาร์ทสุดๆ ไม่หยุดวางแผนเรื่องภาษี! กับ TIPlife Smart Saving 10/3 ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท* พร้อมรับเงินคืนสูงสุดถึง 3.9%* * สร้างความสุขให้ชีวิตสมาร์ทได้แบบสุดๆ สมัครเลย! 👉 bit.ly/TIPlifeSmartSaving10-3
.
*หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
**เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
.
⚠️รับประกันภัยโดย บมจ.ทิพยประกันชีวิต
⚠️ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
.
#TIPlife #ThePowerBesideYou
#พลังที่เคียงข้างคุณตลอดไป #ทิพยประกันชีวิต
#ContentProduct #SmartSaving